ดูสิ เขาถามมาในเฟสบุ๊ค ประโยคเดียว ไอ้เราก็ตั้งใจตอบซะคำถามว่า Khorawooth Likitvanichakul หลังฟ้า ก่อนฟ้า ใช้ทำอะไรครับ
先天為体 後天為用 เซียนเทียนคือ โครงสร้าง โฮ่วเทียนคือ เอาไปใช่ประโยชน์อย่างไร
เทียน ในบางบริบท แปลว่า เวลา นะครับ บางทีก็แปลว่า สวรรค์ บางทีก็แปลว่า ท้องฟ้า ทีนี้ถ้ามันเป็น วัตถุ เช่น ท้องฟ้า หรือวังสวรรค์ มันควรใช้คำว่า เฉียนเทียน โฮ่วเทียน คือ ด้านหน้า และด้านหลัง อันนี้ มันคือ เซียน กับ โฮ่ว ควรแปลว่า ก่อนนาฬิกาชีวิตในชาตินี้จะเดิน กับ หลังนาฬิกาชีวิตในชาตินี้จะเดิน สั้นๆก็ คือ กรรมก่อนเกิด กับ กรรมหลังเกิด ในที่นี้ กรรม แปลว่า การกระทำ และผลของการกระทำ ผังเซียนเทียนจะไม่กำหนดตายตัวเรื่อง ทิศ เน้นการอธิบายความสัมพันธ์ของแต่ละกว้า และการแปรไป ส่วนผังโฮ่วเทียน จะมีทิศทางกำหนดตายตัว ผนวกกับห้าธาตุ
เซียนเทียน จะเป็นการช่วงชิงพื้นที่กันของความสัมพันธ์ แบบบทความก่อนหน้านี้ ที่อธิบายไปว่า ห้าธาตุนอกจากอธิบายสัมพันธ์ก่อเกิดควบคุม ยังมีความสัมพันธ์ในผังแบบพิเศษอีกแบบ อธิบายการแย่งที่นั่งของพลัง เช่น ไฟกับน้ำ ไฟนั่งลง น้ำจะลุกขึ้น ถ้าน้ำนั่งลง ไฟก็จะลุกขึ้น แย่งเก้าอี้ ครองพื้นที่กัน เพราะไฟคือแผ่นซ่าน น้ำคือ เกาะกุม น้ำมากหน่อยก็กลายเป็นเต้าหู้ แต่ถ้าไฟมากจะกลายเป็นน้ำเต้าหู้แทน คือ เกาะกุมมาก ก็มีความหมายเท่ากับ แผ่ซ่านน้อย ไปในตัว เซียนเทียนจึงเป็นตัวกำหนดกรอบ ว่าแต่ละกว้า มีไอเท็มอะไรเป็นอาวุธประจำกาย พลังของแต่ละกว้ามากน้อยแค่ไหน ทิศทางอาจเป็นแนวดิ่ง หรือแนวระนาบก็ได้ แต่ต้องเข้าใจสมัยก่อนไม่มีโฮโลแกรม นี่คือความหมายว่า ทำไมปากว้าต้องวาดให้ไม่มีเหลี่ยม คือแทนที่จะวาดเป็นตาราง ตีมาเก้าช่อง อันไม่ยอมตีตาราง วาดเป็นกว้าๆ ล้อมสัญลักษณ์ ปลาดำปลาขาว คือเผลอๆสัญลักษณ์ปลาดำปลาขาว ที่พวกคุณเรียกกันว่า ยินหยางๆนี่นะ สร้างมาทีหลังปากว้าอีกตะหาก เพราะยินหยางของปากว้า ใช้อะไรครับ ใช้ขีดครับ ขีดไม่เชื่อม คือ หยาง ขีดเชื่อมคือ ยิน มันแทนค่ามันไปในตัวอยู่แล้ว การที่เอาวงกลมยินหยางปลาดำปลาขาวว่ายกินหางกันนี่ เพื่อย้ำเฉยๆว่า เหยๆ มันแปลนะ มันเปลี่ยนนะ มันเป็นวัฏจักรนะ เกิด ดับ เกิด ดับ เท่านั้นเอง นี่อ้างอิงจากสารคดีเรื่องนึงว่า ด้วย อี้จิง ก็พอๆกับ เข็มทิศโบราณ ที่ผมก็เคยบอกละว่า ซือหนันๆ ที่เราเห็นกันหนะ นักวิทยาศาสตร์คนนึงทำขึ้นจากการ มโน อ้าปากกว้างๆนะ อ่านดังๆ มะโน เป็นภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ แปลว่า คิดนึกเอาเอง มีเหตุผลมีหลักฐานหน่อยเราก็เรียกสมมติฐาน ถ้าไม่มีหลักการเลย แถวบ้านเรียกเพ้อ ผมถึงนั่งขำลับๆในใจ ภายใต้ใบหน้าปกติรักษามารยาทว่า มีการเอายินหยางอี้จิงไปอธิบายแบบรวบกันว่า ผังพวกนี้นะ โบราณหมด หึหึ ปล่าวเลย มันไม่ได้เกิดมาพร้อมกันนะ จ๊ะ แต่เอาหนะ มันโบราณจริงเราก็ไม่เถียงเขา หลายพันปีละ เพราะงั้น เซียนเทียนคือคู่ตรงข้ามที่มีความสัมพันธ์กัน ปัญญาผมขณะนี้ เท่าที่ศึกษามาชัดๆ ก็รู้เท่านี้อยู่ ผมถือคติชั่วชีวิต อันไหนไม่รู้จริง ไม่พูด ถ้าพูดก็จะบอกว่า ยังไม่สิ้นสงสัยนะ กำกับไว้ อ่อยเหยื่อ เผื่อมีคนฉลาดกว่าเราไปต่อได้ การมานั่งกั๊กความรู้นี่เท่ากับ เนรคุณครูบาอาจารย์ คือตัดรอนการงอกเงยของวิชาแต่ก็นะ เห็นพิมพ์งกๆ นี่ไหม ทำหนังสือรวมเล่มมาก็ควักกันซื้อหน่อย ถ้าผมกินอิ่ม นอนหลับ ได้เที่ยวสุขใจ มันก็จะมีอารมณ์มาพิมพ์ให้อ่านเยอะ ที่สำคัญ มันคือ แหล่งทุนซื้อตำรา ซื้อทำไม ก็เอามาอ่าน อ่านละก็ตีความมาเขียนเล่าๆ เห็นไหม คนอ่านมีแต่ได้กะได้
อ่อ เกือบลืม มีนักวิชาการ อี้จิง ชื่อดัง ศาสตราจารย์ เจิงซื่อเฉียง ที่ปรึกษาของนักธุรกิจชั้นนำ และข้าราชการระดับสูงของจีน โดยใช้ประโยชน์จากปรัชญาอี้จิง เนี้ยะคนแบบนี้ถึงเรียกว่ามีปัญญา คือเอาความรู้มาใช้เป็น ถ้ารู้อย่างเดียว ใช้ไม่ได้ ทำนายไม่เป็น นี่เรียกว่า ฉลาด จำเก่ง แค่นั้น
โฆษณาหนังขายยาจบ เรามาเล่ากันต่อ เท่าที่พิเคราะห์ โฮ่วเทียน สร้างมาเพื่อใช้กับความสัมพันธ์ที่จับต้องมองเห็นได้มากขึ้น คือ มีการเอาพลังงาน และคุณวิเศษของแต่ละตัว มาจัดฟังก์ชั่นความสัมพันธ์ ที่สอดคล้องความเป็นจริงตามธรรมชาติ ธรรมชาติที่สำคัญของพลังงานคืออะไร คือ ทิศทาง อะไรไปในทิศใด หรือสถิตทิศใด อะไรหนุนอะไร อะไรเคลื่อนไปทางไหน จริงๆมีทฤษฎีอีกอันที่จู่ๆผมอ่านหนังสือปากว้าพวกนี้แล้วมันฉายภาพออกมาในจิต แต่เอาหนะ ยังไม่แน่ชัดของทดสอบก่อน เพียงแต่จะบอกว่า เราเห็นภาพผังพวกนี้เป็นสองมิติ คือ มีกว้างมียาว แต่จริงๆมันน่าสังเกตมากว่า อาจจะอยากสื่อให้เห็นว่ามันคือ สามมิติก็ได้ งั้นก็วาดตารางทื่อๆแบบที่ขีดๆกันในผัง ดาวเหิน แต่นี่ ใกล้จุดศูนย์กลาง เหยาที่เกิดก่อน สั้น เหยาต่อมา ค่อยๆยาว เหยาท้ายสุด อยู่วางนอกสุด ยาวสุด มันเหมือนกำลังล้อมยินหยางที่เป็นแนวระนาบ หรือแนวสามมิติ (มีทั้งระนาบกับแนวดิ่ง) ใครอ่านละ งง ก็นะ บอกละ มันต้องลากมาชี้ให้ฟัง พิมพ์แบบนี้บางทีอ่านยาก ก็ชอบศิลปะมาแต่งเด็กครับ แต่เรียนสายวิทย์ จบมาๆทำสายกฎหมาย จะคุยกะผมรู้เรื่อง ท่านต้องมีทั้งวิทย์และศิลป์ในตัวเองหละนะ ทดสอบความรุ่งเรืองในวิชาหมอดูจีนง่ายๆนะ ลายมือจีนสวยไหม ศิลปะดนตรี พอมีฝีมือไหม ถ้าสองอันตอบว่าไม่นะ คว้าได้แค่บริวารดวงดาวนั้นครับ ดาวตัวเด่นคว้าไม่ได้ เลยปลอบใจตัวเองว่าวาสนาน้อย เป็นได้แค่นักวิชาการโหราศาสตร์ โห โก้กว่าหมอดูเยอะเลย นักวิชาการ นี้ตกลง ซินแสหลัวเนี้ยะ มันมีผลงานเอาหนังสือมาวิจัยตีความมาก มีบทความมาก ดูดวงก็มาก ใครกันแน่สมควรนักวิชาการ แต่เอาหนะ ทุกวันนี้กรอกเอกสาร ช่องอาชีพว่า ขอไม่กรอกได้ไหม ถ้าได้รับคำตอบว่าไม่ได้ เราก็บอกว่า โอเค นักเขียน ขืนบอกหมอดูนะ สิบคนจะขอให้เราดูดวงฟรีสัก เก้าคนแน่ๆ พนักงาน ละก็จะถามว่า ค่าดูเท่าไหร่ พอบอกไป ไม่ต้องทายก็แม่น แทบจะทุกคนจะบอกว่า ทำไมแพงจัง ละก็ชวนไปคุยเรื่องอื่นต่อ ฮ่าๆ เสียเวลาข้าพเจ้า โอเคนะ อธิบายโครงสร้างให้ละ เอาไปประกอบกับ ตารางที่ผมแชร์หน้าเวป www.chinese-horo.com ที่เป็นตาราง ด้านหน้าเป็นปากว้า ด้านหลังเป็น ห้าธาตุ รักดวงจีน อยากรู้เรื่อง ต้องท่องจำก่อนครับ วิธีเรียนแบบโบราณคือแบบนี้เลย ท่องแบบโง่ๆ ก็คัมภีร์ซานจื้อจิง โดนบังคับท่องตั้วแต่ ป สามนะที่โรงเรียน มาเข้าใจความหมายมันจริงๆจังๆ เนี้ยะ ไม่กี่ปีมาเนี้ยะ เหมือนกัน อยากรู้ อย่าดีแต่ถาม อะไรที่บอกให้ท่อง ท่องครับ เบาแรงคนเขียนไง ละอีกอย่าง เรารู้จักกันก็ให้มันได้อะไรติดไม้ติดมือบ้าง จริงไหม ผมถึงถามไงในเพจว่า ตั้งแต่รู้จักกันมานี่ เรามีความสุขขึ้น หรือ เจริญอะไรขึ้นไหม คือถ้าคบใครเป็นเพื่อน เป็นมิตร คบไปตั้งนาน ชีวิตทรงๆทรุดๆนี่นะ บ้ายบายละบอก อเสวนา จะ พาลานัง เถิด
โอเค เหนื่อยละ วันนี้ว่าจะนอนทุ่มกว่า เพราะ กทม หนาวมากๆ ง่วงไว ไม่ได้ไปตะลอนไหน เนี่ยะเห็นไหม ความดีของการจำได้นะ พอพิมพ์คำว่า หนาวไม่อยากออกไปทำงานตะลอนไหน พุทธพจน์ปรากฎขึ้นมาเลย
อบายมุข (ช่องทางเสื่อมทรัพย์อับชีวิต)
เสพติดสุรายาเมา เอาแต่เที่ยวไม่รู้เวลา จ้องหาแต่รายการบันเทิง เหลิงไปหาการพนัน พัวพันมั่วสุมมิตรชั่ว และสุดท้าย ต้องขยี้ตาอ่านหลายๆรอบว่า หึย ขี้เกียจนี่ก็ อบายมุข คือความมัวจมอยู่ในความเกียจคร้าน เอาหละ ใครได้อ่านก็นะ เลิกไปชี้ด่าว่า เธอหนะเหล้ายังทาน เธอหนะชอบงมงายซื้อหวย เพื่อนคนนั้นไม่ดี แฟนไม่ดีทนทำไมทำไมไม่เลิกคบ ละหันควั้ปมามองตัวเอง
เช็คสิว่า
บ่อยครั้งเพื่อการยืดเวลาพักผ่อน หย่อนเวลาการงาน ชอบอ้าง ว่าร้อนไป หนาวไป ยังเช้าเกินไป ค่ำไป หิวอยู่ หรืออิ่มเกินไปก็ไม่ทำงาน แบบนี้หรือเปล่า แบบตอนเนี้ยะ พรุ่งนี้เช้าก็ตื่นสายละบอกว่า หนาวมากๆ ยังไม่อยากลุกจากที่นอน เอ่าละ อบายมุขเต็มๆ ก็กลายเป็นพวกเดียวกับที่เธอไปว่าเขาว่า กินเหล้าหนะหละ เสื่อมพอกัน จำไว้ไง ทีหลังจะได้เตือนเขาจากความห่วงใย ด้วยคำพูดที่อ่อนย่อม ปลอบประโลม และสร้างกำลังใจให้เขาเลิกทำชั่วแล้วทำดี อย่าไปพูดให้ใครฮึกเหิมจนว่า เอาวะ ไหนๆตูก็ชั่ว งั้นชั่วสุดๆเลยดีกว่า
โอเคนะ เบลอละ ตาก็จะปิดลงๆ วันนี้ ล่อตั้งสองบทความยาวๆ เล่นเอาจากต้องวิ่งหาเสื้อหนาวใส่ เป็นถอดเหมือนปกติ กทม หึหึ ที่ทำนี่นะ ไม่ใช่ว่าอวดความเก่ง หรือบอกว่า ชั้นนี่สีขาว ธรรมะจ๋า ไม่ใช่ ตัวตูเนี้ยะ มอมแมม แต่ในมือถือตะเกียงไว้ ไพ่เดอะเฮอรมิท ในยิปซีหนะ ถ้าจะได้นึกภาพออกไวขึ้น ยังไงก็คิดว่า คงจะไม่ก้าวลงเหว
ละพอดีว่า เดินคนเดียวมันเหงา เลยเขียนเล่า กวักมือมาว่า ปะๆ เราเดินไปด้วยกัน ก็แค่นั้น ละเจอกันไม่ต้องไหว้ผม โหบางทีรับไหว้แทบไม่ทัน กลัวอายุสั้นผู้ใหญ่ไหว้ แค่ท่านไว้ใจให้ผมได้ใช้วิชาที่ผมรัก ช่วยคลายทุกข์ท่านได้ ก็ถือเสมือนกำลังใจอย่างดีละครับ มิตรรัก แฟนเพลงกระบี่ที่เคารพครับ รักแสหลัวน้อยๆ แต่รักแสหลัวนานๆ คนเรามันไม่แน่ วันนี้ดี พรุ่งนี้อาจชั่วก็ได้ ช่วยกันถือตะเกียงอย่าดับก่อนเป็นพอ ชักยาวอีกละ ราตรีสวัสดิ์ครับ
ซินแสหลัว บันทึกจากใจ ด้วยความห่วงใย เพื่อน ร่วมชะตากรรมโลก ในค่ำคืนที่เหน็บหนาว แต่ดาวพราวพร่างในใจ อ่าๆ อย่าลืมนะ ปากว้า สองมิติ หรือสามมิติ ใครค้นพบอะไรดีๆ ฝากบอกกล่าวมาทางนี้บ้างเด้อครับ
Comments