ชื่อคลาสสิคสุดของ เทศกาล ตรุษจีน คือ ชุนเจี๋ย ถ้าแปลแบบทื่อๆคือ เทศกาลฤดูชุน เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ถ้านับเอาตามปฏิทินสุริยคติ หรือตามพระอาทิตย์ ตอนนี้ถือเป็น ฤดูใบไม้ผลิแบบเต็มตัว เข้าสารท ลี่ชุน ลิบชุง ณ วันนี้หละครับ ยามมะเมีย คือ เวลา11.00 น. ล่วงมาแล้ว แปลว่าอะไร ดวงจีนแปลว่า หยางเริ่มให้ผลแล้ว หมายถึง อะไรที่ควรจะเกิดในปีแพะ ก็จะเริ่มเกิดให้เห็นแล้ว ส่งผลแล้ว มองเห็นได้แล้ว แต่จะให้เห็นแบบถนัดตาจริงๆ ต้องล่วงเข้าราวๆ มีนาคมก่อน ประโยชน์ของโหราศาสตร์จีนที่ใครๆเขาหาว่างมงายนั้น แท้จริงลึกซึ้ง ถ้าไม่มีนักโหราศาสตร์ ไม่มีทางที่ปฏิทินจะเพอร์เฟค ถ้าโลกไร้ปฏิทิน อารยธรรมก็สิ้นไปในทันที คนเข้าใจปฏิทินและการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเท่านั้นที่จะชนะทุกเกมชีวิต แต่คนเข้าใจในธรรมจะชนะในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ใครที่ได้เห็นโพสนี้ ขอให้รีบตั้งจิตตั้งใจ ยกมือหน้าคอมก็ได้ครับไม่ต้องหิ้งพระ กล่าวนมัสการพระรัตนตรัย สมาทานศีล ตั้งใจจะทำความดี และแผ่เมตตา สัพเพ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทำร่วมกัน ณ เวลาเดียวๆกันนี้ ให้พลังความดีแผ่ไปทั่วสามโลกธาตุ ให้พลังความดีแผ่ไปทุกทั่วตัวเรา เพราะจักรวาลบนฟ้าก็คือจักรวาลในกาย สิ่งใดมีอยู่ในสรรพสิ่งใต้หล้า ล้วนมีอยู่ในกาย กายและธรรมชาติสอดประสานกัน
ภาพนี้ชื่อ ชุนอู่ถู สื่อแง่กสิกรรมเฉพาะ คิดดีๆสิไม่เห็นน่าถาม เด็ก แทน จื้อ อาทิตย์ แทน โง่ว วัวแทน โฉ่ว รวงข้าวที่นาแทน เถาะ จื่อ โฉ่ว เดินมาแล้วจ้า ขาล (เดือน กพ) ต้องตามมาแล้ว ขณะนี้เป็นยามหยางขึ้นสูงุสุด (ยามะเมีย) ถึงคราวทำการแล้วจ้า ผมถึงบอกไงว่ามันจะงอกเงยอะไรนั้น ตอน เถาะ ไม่ใช่ ตอนขาล
แต่ละภาพมีความหมายเฉพาะนะครับ ใครที่ซื้อ ทงซู หรือปฏิทินจีนเล่มสีแดงๆ หนาๆ เย็บเล่มแบบจีนที่ขายเยาวราชนั้น จะมีภาพนี้ในหน้าแรกๆ จะมีคำพยากรณ์ และคำอธิบายอยู่ล่างภาพ ทั้งความสูงของวัว ความยาวหางวัว สีของหัววัว สีตัวของวัว สีกีบเท้า สีหาง เด็กเลี้ยงวัวสูงเท่าไหร่ ถืออะไรในมือ หน้าตาแบบไหน สีหน้าสีอะไร รองเท้าใส่หรือไม่ กิ่งหลิวที่ถือในมือยาวเท่าไหร่ พวกนี้จะออกมาเป็นคำทำนายทางกสิกรรม ฟ้าฝน ลมแดด แยกแยะเอาไว้หมด ไว้ว่างๆจะมานำเสนอว่า เป็นสัญลักษณ์อะไรแทนอะไร มันคือการใช้สัญลักษณ์ในการจำ จำเพื่อสื่อใจ ประทับภาพและความหมายไว้ในใจ ทำให้จำติดตาติดใจได้ดีกว่าข้อความครับ
.
Comments