เดือนตุลาคมก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เป็นการผ่านไปของเดือนแห่งบุญใหญ่ตามความคติของพุทธศาสนาฝ่ายมหายานซึ่งก็คือเทศกาลกินเจ จริงๆคำว่า เจ นี้ภาษาจีนแปลว่าสะอาดบริสุทธิ์นะ และคำว่า เจี๊ยะเจ จะแปลให้ได้ความหมายแท้จริงก็คือการบริโภคอย่างบริสุทธิ์ ไม่ใช่แปลว่า การไม่ทานเนื้อสัตว์แบบที่หลายคนเข้าใจกัน พูดถึงเทศกาลนี้ไม่ใช่ว่าผมจะมาเชื้อชวนในบทความของผมให้ทุกคนเข้ามาถือศีลกินผักแต่อยากจะพูดว่าการบริโภคอย่างบริสุทธิ์นั้น สามารถทำได้ทุกวัน และมุ่งหมายที่ความคิดอันผ่านจิตใจมากกว่าอาหารที่ผ่านปาก เหมือนที่ผู้อาวุโสหลายคนท่านกล่าวว่า หากแม้นทานเจแต่ยังปรุงแต่งให้เหมือนจนคิดว่าสิ่งที่ทานเข้าไปก็ไม่ต่างจากเนื้อสัตว์ มีทั้งหมูเจ เป็ดเจ หมูแดงเจ ฯ ทานเข้าไปกี่คำกี่คำก็ยังคิดว่าอร่อยแบบเนื้อสัตว์อยู่แล้วไซร้ สู้ทานตามปกติผักบ้างเนื้อบ้างแต่บริโภคเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ได้เพื่อประกอบการงานตามหน้าที่ยังจะมีความบริสุทธิ์เสียมากกว่า เพราะความอยากนั้น ได้หายไปแล้ว เมื่อเป็นดังนี้แล้ว การทำงานก็เช่นเดียวกัน การไปปรุงแต่งฮวงจุ้ยในที่ทำงานนั้นย่อมเทียบกับการปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองและจิตใจให้พร้อมรับหนักแน่นกับงานและเจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงาน ย่อมมีความสำคัญมากกว่า เจตนาที่ผมเขียนบทความฮวงจุ้ยที่ทำงาน จึงไม่ใช่เพื่อให้ท่านเฮงในเรื่องงานที่มันแย่ หรือให้ผลเป็นแนวไสยศาสตร์ด้วยการให้เลื่อนขั้น ขึ้นเงินเดือนอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะผมถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงผลพลอยได้จากวิชานี้เท่านั้น จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการเผยแพร่วิชาเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทำงาน เพราะแน่นอนว่าหากปรับแก้ฮวงจุ้ยให้คนเกียจคร้านอู้งานเพียงใด งานที่เขารับผิดชอบก็ไม่มีวันสำเร็จได้ วันนี้จึงถือโอกาสในห้วงแห่งงานบุญ พูดถึงฮวงจุ้ยที่ทำงานของคนธาตุไฟ คนที่ตำราดั้งเดิมกล่าวไว้ว่าเป็นคนจำพวกหลี่ คือนอกจากความตื่นตัวร่าเริงยังรู้จักกฎเกณฑ์มารยาทคือมีจริตจริยาใน การเข้าหาคนฉะนั้นเรื่องคุณธรรมสำนึกและการใฝ่หาการพัฒนาชีวิตเสมอจึงเป็น ของคู่กับคนธาตุไฟ ถ้าใครอยากรู้นิสัยเพิ่มเพื่อจะได้เห็นภาพว่าคุณเป็นคนธาตุอะไรก็เชิญหาอ่านได้ในฉบับแรกนะ
ตามธรรมเนียมของผมก็คือขอพูดเรื่องทิศทางเสียก่อน เพื่อจะได้ไม่ละลืมความพิเศษของวิชาโหราศาสตร์จีนที่นอกจะบอกดวงชะตาได้แล้ว ยังบอกตำแหน่งแห่งทิศที่เป็นทิศมงคลของแต่ละดวงชะตาได้ด้วย สำหรับทิศที่ดีสำหรับโต๊ะทำงานของคนธาตุไฟนั้นจะต้องแยกให้ออกก่อนว่าคุณทำงานเกี่ยวกับอะไร หากต้องเป็นงานออกแบบหรือมีการใช้ไอเดียสมองเยอะ ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็ใช้ได้ แต่หากเป็นงานที่ต้องรองรับเจ้านายผู้ใหญ่ตลอดจนอยากได้ยศฐาบันดาศักดิ์ มีคนนับหน้าถือตาก็ให้หันไปทางทิศเหนือ ส่วนโต๊ะทำงานยอดนิยมที่มักหันไปทางทิศตะวันออกนั้น เหมาะสำหรับคนที่รักความก้าวไปข้างหน้าอย่างมันคง เป็นงานที่ต้องมีเข้ามาเรื่อยๆเป็นประจำวันไม่ใช่เป็นงานรับเหมาเป็นคราวๆ และเป็นงานที่ต้องรับหน้าผู้คนทั้งหลายเช่นการติดต่อ ประชาสัมพันธ์ หรือเลขานุการ ฯ แต่ถ้าคุณพบว่าโต๊ะทำงานหันไปทางทิศใต้ ซึ่งหมอดูฮวงจุ้ยทั่วไปมักจะนิยมชมชอบทิศนี้เป็นพิเศษ สำหรับคนธาตุไฟแล้วถือว่ามีความเจริญก้าวหน้าและมีสังคมคอยชั่วเหลือ เรียกได้ว่าส่งเสริมกิเลสคุณนั้นหละ ถ้าหากเป็นคนร่าเริงชอบพูดชอบคุยหรือหยุดปฎิสัมพันธ์กับชาวบ้านเขาไม่ค่อยได้ เสียก็แต่ว่าให้ระวังอุปกรณ์สำนักงานของคุณมันจะต้องเสียค่อนข้างบ่อยและรู้สึกว่านั่งอยู่กับโต๊ะนานไม่ได้ ทิศนี้เลยเหมาะกับงานที่ต้องคุมคนงานหรืองานที่ต้องออกนอกสถานที่เยอะๆ ไม่ค่อยได้นั่งโต๊ะตัวเอง และทิศสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ ทิศตะวันตก ซึ่งตามวิชาโหราศาสตร์จีนถือว่าเป็นทิศของธาตุทอง ฉะนั้น เมื่อไฟมีหน้าที่เผาทองเป็นธรรมดา ก็เปรียบเสมือนการได้เงินตราและอาหารการกินอันโอชะ ตำแหน่งนี้จึงควรเป็นตำแหน่งของผู้จัดการ หรือหัวหน้างานที่มีอำนาจในสำนักงานที่จะต้องติดต่อลูกค้าหรือรับหน้าเจ้านายใหญ่ ตลอดจนเป็นฝ่ายการขายที่จะต้องจับลูกค้าให้ได้อยู่หมัด รวมไปถึงหน้าที่เกี่ยวกับการเงินการทองหรือเรียกได้ว่าพวกฝ่ายคลังทั้งหลาย ประโยคต่อไปที่จะแนะนำอาจจะขัดกับสิ่งที่คุณเคยเรียนรู้มาบ้าง เพราะผมเบื่อคำว่า ต้องสะอาดเป็นระเบียบ ลองสังเกตนะ หนังสือหลายเล่ม อาจารย์หลายคน มักกล่าวเป็นหลักใหญ่ไว้เลยว่า ฮวงจุ้ยที่ดีนั้น ต้องสะอาด ใช่ผมไม่เถียงหรอก ถ้าคุณต้องการชีวิตธรรมดาพื้นๆแบบชาวบ้านเขาทั่วไป หรือเรียกได้ว่าไม่ดีไม่เสีย ก็เชิญ แต่คนแบบผมชอบตื่นเต้นหวาดเสียวหน่อย แบบเล่นหุ้น ดีก็ให้มันเด่นไปเลย ส่วนเจ๊งอย่ามาพูดในนี้เพราะอัปมงคลตัวอักษร จึงขอให้คนธาตุไฟผู้รักสังคม หัดทำโต๊ะให้มีงานกองเยอะๆ ยุ่งๆเสียหน่อย อย่าทำให้โต๊ะเรียบร้อยมากเกินไป เนื่องจากหัวหน้างานจะมองว่าคุณไม่ยอมทำงาน แอบอู้งานไปนู่นมานี่บ่อยๆ อีกทั้งเขายังจะโรคจิตพลอยคิดว่างานที่มอบหมายให้คุณมันน้อยเกินไป คุณจึงสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและดูท่าว่ามีเวลาว่างเสียเยอะ ลองหากองหนังสือหรือกองแฟ้มงานกระดาษมาตั้งบนโต๊ะหน่อย ให้เต็มโต๊ะเข้าไว้ งานจะได้ไม่ต้องเยอะแบบที่ควรจะเป็น และมีเวลาใช้งานอินเตอร์เนต ตลอดจนอุปกรณ์สื่อสารต่างๆแบบที่คุณชอบได้เยอะแต่ต้องปลงหน่อยว่า ไม่ว่าคุณเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ หรือใช้มันอย่างดีแค่ไหนก็ตาม เรื่องที่มันชอบรวนหรือเสียบ่อยเป็นเรื่องธรรมดาของคุณอยู่แล้ว วิธีแก้ก็ง่ายๆคือ หัดไปหาหนังสือวิธีการแก้ไขเบื้องต้นมาอ่านเสียบ้าง และที่สำคัญขาดไม่ได้คือ หากคุณต้องการความสงบ จงหลีกเลี่ยงการนั่งโต๊ะประจำตำแหน่งของคุณเสีย เพราะที่นั่นไม่มีทางที่จะอ่านหนังสือยามว่าง หรือจิบกาแฟใช้สมองแบบเงียบๆได้เลย สุดท้ายคือ เรื่องของตกแต่งหรือเครื่องใช้สอยสำหรับทำงานคุณจะมีซิกเซ้นท์จัดวางได้เองอย่างเป็นระบบโดยที่ผมไม่ต้องสอนเลย งานคือความสุขของเหล่าสาวกธาตุไฟแล้ว คงไม่ต้องให้กำลังใจกันมากสำหรับเรื่องสู้งาน แต่ขอเตือนว่า พักเสียบ้างก็จะดีไม่น้อย
ซินแสหลัว
ความคิดเห็น