ภาพ เจ้าแม่กวนอิมจากพิพิธภัณฑ์เกาหลี
เพราะเมตตา คือ คุณธรรมเดียวที่ ค้ำจุนโลกไว้ได้ วันนี้คือ วันระลึกถึงผู้ประกาศแสงสว่างแห่งความเมตตากรุณาให้ไพศาล วันกำหนดคล้าย วันเกิดเจ้าแม่กวนอิม (วันขึ้น 19 ค่ำ เดือน 2 เดือนยี่จีน) ใช้คำว่าวันกำหนดคล้ายวันเกิดเพราะจริงๆ เจ้าแม่กวนอิมหรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมไม่ได้จุติลงมาเกิดแค่หนเดียวแล้วไปเป็นพระโพธิสัตว์เลย
เมื่อวานแทบจะเป็นวันเดียวในรอบปีที่กลั้นใจนอนมันสามทุ่ม เพราะวันนี้รู้ว่าต้องตื่นเช้า อย่างที่ทราบกันดีว่า ผมเป็นมนุษย์ร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก เลยชอบเลื่อนคิวดูดวง คิวฮวงจุ้ย สารพัดจะคิวชาวบ้านเพราะบางทีสังขารมันไม่อำนวยให้ เข้าออก รพ นี่ตั้งแต่เล็กๆ นอน รพ ทุกปี ชีวิตสนุกมีแต่คนใส่ชุดขาวรายล้อม เหมือนอยู่กลางสวรรค์ ฮ่าๆ แต่เจ็บปวดปางตายเหมือนนรก … เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มเกล้าคุ้มหัวสามท่านที่ผม เชื่อแบบสุดชีวิต หลังจากลองของมาหลายหน ว่ามีอยู่จริง ช่วยได้จริง และคุ้มครองเราจริงคือ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ผู้สร้างอาคารผู้ป่วยที่ๆทำให้ผมได้ลืมตาดูโลกใบนี้มา 太上老君ไท่ซ่างเหล่าจวิน และอีกท่านคือ 观世音菩萨พระโพธิสัตว์กวนอิม ก็ทำไงได้ พ่อแม่ตั้งชื่อให้ในความหมายที่แปลว่า เมตตากรุณา ครูจีนก็ตั้งชื่อว่า ซั่นฮุย แปลว่า แสงสว่างอันเรืองรองของความกรุณาที่แผ่ไปสู่สรรพสัตว์ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะดวงมันแรง ต้องเอาไปยกเป็นลูกครูบาฯ ครูบาท่านนี้มรณภาพไปแล้ว วิหารไฟไหม้ทั้งหลัง ร่างท่านไม่ไหม้ คงไม่แปลกใข่ไหม ละถ้าผมบอกว่า จีวรที่ห่มร่างท่านก็ไม่ไหม้ไฟด้วยละ … จำได้ว่าสมัยนั้นออกหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ เสียดายไม่ได้ตัดเก็บเอาไว้ แต่ชาวบ้านในละแวกกับลูกศิษย์ของครูบาต่างทราบกันดี
ผมไม่เคยคิดว่าผมเก่ง แต่ตัวช่วยผมเยอะ คนช่วยผมเยอะ เทวดาก็ช่วยผมเยอะ นี้เป็นชีวิตที่เหมือนมีคนช่วยเหลือเรามามากมายแต่เด็กทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ก็เลยไม่รู้สึกว่าแปลกหรือเหนื่อยที่จะต้องช่วยคนอื่นคืนไป แน่นอนว่าการทำแบบนี้ หลายทีมันเสียกำลังใจแทบเข่าทรุด แทบจะอยากตาย … สัญญาณจากสิ่งที่มองไม่เห็นที่เป็นกำลังใจทำให้ ทำต่อ มีกำลังใจต่อ คือ เจ้าแม่กวนอิม ล่าสุด นอนไม่หลับมาสองเดือนกว่าๆ ทำยังไง๊ก็นอนไม่หลับ หลับทีนี่ ตีสอง ตีสามบ้าง ปรากฎว่าเราก็อธิษฐานขอให้ได้พบหมอดียาดี โห ห ห เชื่อไหมว่ามันไหลหลั่งมาไม่ขาดสาย จนท้ายสุดไปเจอหมอที่ศิริราชคนนึง หน้าเหมือนเซียนฮั่นจงหลีถือพัด ติ่งหูยาวถึงเกือบคอ ใบหน้าเอิบอิ่ม คิ้วดกหนาเป็นหย่อม คางใหญ่ พูดจากังวาล หางตาห้อยย้อยลง ดวงตาห่างกว่าคนทั่วไป มีประกายหนักแน่น พูดมาแค่ ประโยคเดียวเท่านั้นหละ ผมหลับเอาเป็นเอาตายมาสองสามวันละ โดยไม่ต้องมา กินยานอนหลับ ไม่ต้องยาแก้เครียด พูดแบบ อาจารย์หมอฮิ้ม (พระรามสาม ซอย27) เป๊ะ …. “ไม่มียาวิเศษอะไรรักษาตัวลื้อได้หรอก….ใจ คุณเท่านั้นที่ต้องรักษาตัวเอง สามสิบกว่าปีแห่งการอยู่ในวงการแพทย์ ขอยืนยัน”
มันเลยทำตัวประหลาดๆนะ ทำตัวแบบไม่บ่นเพ้อกับความจน เพราะเราไม่คิดว่าเราจน และก็แน่ใจว่าเราไม่จน และไม่เคยกลัวว่าจะจน อยากได้อะไรก็มีเงิน ไม่ก็มีคนยกมาให้ มีใครเคยขนหนังสือจีน หอบมาให้เป็นกล่องๆไหมหละ หนังสือโหราศาสตร์ แม้กระทั่งห้องประชุม หรือสถานที่ให้ใช้ฟรีๆ ไปไหนมีคนถามว่าจะนอนไหน จะไปยังไง ขับรถไปส่งให้ ไปนั่งเฝ้านั่งรอ ป่วยก็มีคนหอบยามาให้ พวกนี้อย่าคิดว่า ญาติหรือเพื่อนผมนะ คนแบบเพิ่งรู้จักกันทั้งนั้น เหมือนกับว่าไม่อยากให้เราลำบากอย่างงั้นหละ ผมก็ไม่รู้ว่าอานิสงค์อะไรหรือเทวดาองค์ใดช่วยหรอกนะ รู้แค่นึกถึงคุณธรรมเรื่องความกรุณาที่เจ้าแม่กวนอิมบำเพ็ญแล้ว มันมีกำลังใจ และมีตัวช่วยเราเสมอ ตลอดมา
27 มีนาคม 2559 วันที่เขียนบทความนี้ ตรงกับวันที่ 19 เดือน 2 เดือนยี่ ตามปฏิทินจันทรคติจีน (二月 十九) ถือเป็นวันรำลึกวันประสูติของพระโพธิสัตว์กวนอิม นำมอกวนซืออิมผู่สัก 南無大慈大悲觀世音菩萨
โผวมุนพิน คำอ่านภาษาไทย – YouTube ผู่เหมินผิ่น กล่าวสรรเสริญเจ้าแม่กวนอิม และอานิสงค์ของการระลึกนึกถึงพระคุณแห่งความกรุณา
佛咒:大悲咒(潮语佛乐) – YouTube ต้าเปยโจ้ว พระคาถาศักดิ์สิทธิ์ ร้อยเรียงอานุภาพของความกรุณาแห่งเจ้าแม่กวนอิมไว้
https://www.youtube.com/watch?v=4zB2jBVe6jg ซิมเก็ง หัวใจพระสูตรปรัชญาปรมิตตา คือ จะให้ความกรุณาคนต้องประกอบด้วยปัญญาด้วย อย่าไปทำแบบคนโง่ๆ ใช้ความกรุณาเพื่อทำให้ขัดเกลาใจเราให้มีปัญญา ไม่ใช่กรุณา เมตตาคนแบบให้มีกิเลส คือหลายคนชอบอยากช่วยคนจนตัวเองเป็นทุกข์
เห็นง่ายๆที่สุดที่ชอบมาดูดวงกับผมนะคือ ถามว่า เงินที่ให้คนอื่นยืมไปเมื่อไหร่ได้คืน กับ ดวงหนูเป็นดวงคนทำคุณคนไม่ขึ้นเหรอค่ะ ทำไมช่วยเขาแล้วเขาไม่เห็นคุณค่า หลายคนมาเนรคุณ ก็เธอเล่นทำบุญแบบคนโง่ เอะอะ เอาเงินฟาดหัวๆ คือ เค้าขอเงิน เธอก็ให้เงิน จำเอาไว้ สอนสั้นๆ แบบสรุป ขอให้เงิน เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่คุณจะเอาไปช่วยคน ถ้าพิจารณาแล้วไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสุดๆ อันเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งเอาเงินไปช่วยใคร ตามวิชาดวงจีนถือว่า เงินคือน้ำกรดงูพิษ ราดรดลงที่ใด เดือดร้อนใจที่นั่น…
ลองอ่านอานิงส์ด้านล่าง ผมยืนยันได้ว่า มีจริงๆ แค่เมตตาอย่างเดียวเนี่ยะ นะ เอ้ออออ แค่เมตตาอย่างเดียวนี่หละ
อานิสงส์ของการเจริญเมตตา ๑๑ ประการ ( อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เมตตาสูตร)
๑. หลับเป็นสุข คือ หลับสบาย หลับสนิท ๒. ตื่นเป็นสุข คือ เมื่อตื่นขึ้นมาก็สบายตัว สบายใจ หายอ่อนเพลีย ไม่มีอาการง่วงติดต่ออีก ๓. ไม่ฝันร้าย คือ จะไม่ฝันเห็นสิ่งเลวร้ายทำให้สะดุ้งตื่นกลางคัน หรือไม่ฝันหวาดเสียวต่าง ๆ ๔. เป็นที่รักของคนทั่วไป คือ จะเป็นคนมีเสน่ห์ ไปที่ใดก็ปราศจากศรัตรูผู้คิดร้าย แม้ผู้ไม่ชอบใจก็จะกลับมาชอบได้ ๕. เป็นที่รักของอมนุษย์ทั่วไป คือ แม้สัตว์ต่าง ๆ ก็รักผู้แผ่เมตตา ไม่ขบกัด ไม่ทำร้าย ทำให้ปลอดภัยจากเขี้ยวงาทุกชนิด ๖. เทวดารักษาคุ้มครอง คือ จะเดินทางไปไหนมาไหนเทวดาจะคุ้มครองให้ความปลอดภัยตลอดเวลา จะไม่ประสบอุปัทวภัยต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ๗.ไฟ ศาสตรา ยาพิษ ไม่แผ้วพาน คือ สิ่งเหล่านี้จะทำอันตรายมิได้ จะปลอดภัยจากสิ่งเหล่านี้ ๘. จิตเป็นสมาธิเร็ว คือ ผู้แผ่เมตตาเป็นประจำ ถ้าทำสมาธิ จิตจะสงบนิ่งได้เร็ว หรือจะอ่านหนังสือ จะทำงานอันใดก็ตาม จิตจะไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมตั้งใจได้เร็ว ทำงานนั้นสำเร็จสมประสงค์ ๙. หน้าตาผิวพรรณจะผ่องใส คือ ผู้มีเมตตาจิตเป็นประจำ หน้าตาและผิวพรรณจะมีน้ำมีนวลมีเสน่ห์เรียก ความสนใจได้ จะดูอิ่มเอิบตลอดเวลา แม้จะมีอายุมาก แม้รูปร่างจะไม่สวยงาม แม้จะไม่ได้รับการแต่งเติมด้วย เครื่องสำอางใด ๆ หน้าตาผิวพรรณก็ผ่องใสน่าดูน่าชมได้เสมอ ๑๐. ไม่หลงเวลาตาย คือ เวลาใกล้ตาย จะไม่หลงเพ้อ ละเมอ หรือโวยวายอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ดิ้นทุรนทุรายเป็นที่น่าเวทนาของผู้พบเห็น จะสิ้นใจอย่างสงบเหมือนนอนหลับไป ฉะนั้น ๑๑.เมื่อไม่อาจบรรลุธรรมชั้นสูง ย่อมเข้าถึงพรหมโลก คือ ผู้มีเมตตาจิตเป็นประจำ แม้ไม่ได้บรรลุธรรมชั้นสูงขึ้นไปกว่านี้ ก็ย่อมจะไปบังเกิดในพรหมโลกอันเป็นที่เกิดของผู้ได้ฌาน
อยากเริ่มต้นมีชะตาชีวิตที่ดีขึ้น เริ่มต้นได้ที่ เจริญเมตตาจิต ทำเถอะครับ ผมใช้ทั้งชีวิตผมทั้งทำและพิสูจน์มาเรื่อยๆ ภายใต้ความดื้อบ้าง นอกลู่นอกทางบ้าง แต่ตราบใดจิตและจริตยังคงเดินในทางเมตตา ชีวิตต่อให้ซัดส่ายไปบ้าง ดีบ้าง ลงบ้าง ก็ยังคงมั่นตรงที่เจริญขึ้นไปเรื่อยๆ และมีความสุข ขึ้นไปเรื่อยๆ พ้นทุกข์ไปเรื่อยๆ จริงๆ
ซินแสหลัว 27/3/2559
ปรัชญาปรมิตตาหฤทัยสูตร ซิมเก็ง 般若波罗蜜多心经 ที่คัดลายมือพู่กันจีนเอง
ไต้หวันวันนี้มีคนเล่าว่า ร้านอาหารเจ โดยไฟไหม้มีครได้รับบาดเจ็บ แต่ป้ายเขียนปรัชญาปรมิตตาสูตร (ซิมเก็ง 心經) กลับไม่ได้รับผลการเผาไหม้ใดๆ คงเหลือแค่เขม่านิดหน่อย
Comentários